>> ประวัติความเป็นมาของโรงเรียนวัดด่านสำโรง

          โรงเรียนวัดด่านสำโรงเป็นโรงเรียนขนาดใหญ่ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรปราการเขต 1

สำนักงานคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน  กระทรวงศึกษาธิการ

          แต่เดิมในท้องที่ตำบลสำโรงเหนือและท้องที่ใกล้เคียง  ไม่มีสถานศึกษา  สำหรับเด็กแม้แต่แห่งเดียว   ซึ่งเป็นปัญหาและอุปสรรคต่อการศึกษาเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุนี้ทำให้ พระปลัดแจ่ม อตฺตสิริ (พระสมุทรเมธาจารย์)  เจ้าอาวาสวัดด่านสำโรงในขณะนั้น  เห็นความสำคัญจึงริเริ่มจัดการศึกษา  โดยใช้ศาลาการเปรียญของวัดด่านสำโรงเป็นสถานที่เรียน เป็นการสอนแบบโรงเรียนเป็นครั้งแรกในปี  พ.ศ. 2476 โดยมีพระเฉื่อยและพระช้อยเป็นผู้ช่วยสอน  มีนักเรียนชาย/หญิง  ประมาณ  70  คน
          ในปี  พ.ศ.2477  ได้ย้ายจากศาลาการเปรียญ  มาเรียนที่ศาลาดิน ด้วยสาเหตุจำนวนนักเรียนเพิ่มขึ้น ต่อมาในปีเดียวกัน นายทองใบ  ปทุมวงศ์ ศึกษาธิการอำเภอเมืองสมุทรปราการ ได้มาติดต่อกับเจ้าอาวาสวัดด่านสำโรง  ขอทำการเปิดการเรียนจัดตั้งเป็นโรงเรียนอย่างเป็นทางการโดยใช้ชื่อว่า “โรงเรียนประชาบาลสำโรงเหนือ (วัดด่าน)”  โดยแต่งตั้งให้พระช้อย ดำรงตำแหน่งครูใหญ่เป็นคนแรก
          ในปี  พ.ศ.2477-2481 เปลี่ยนชื่อโรงเรียนเป็น “โรงเรียนประชาบาลวัดด่านสำโรง”
          ในปี  พ.ศ.2482-2494 ใช้ชื่อโรงเรียนว่า “โรงเรียนสำโรงทองอุทิศ”
          ในปี  พ.ศ.2495-2509 เปลี่ยนชื่อโรงเรียนเป็น “โรงเรียนวัดด่านสำโรง (เรือนสำโรงทองอุทิศ)”
          ตั้งแต่ปี พ.ศ.2510 จนถึงปัจจุบัน เปลี่ยนชื่อโรงเรียนเป็น “โรงเรียนวัดด่านสำโรง”

          ตั้งแต่ช่วงระยะเวลา พ.ศ.2478  จำนวนนักเรียนเพิ่มมากขึ้น สถานที่ใช้เรียนไปเพียงพอ พระปลัดแจ่ม (พระสมุทรเมธาจารย์)  ในฐานะผู้ก่อตั้งและอุปถัมภ์โรงเรียนมาตลอด  จึงได้ดำเนินการก่อสร้างโรงเรียนและอาคารเพิ่มเติม ดังนี้

อาคารเรียนหลังที่ 1

          สร้างในปี พ.ศ.2478  เป็นอาคารเรียนไม้ 2 ชั้นแบบปั้นหยา (เรือนสำโรงทองอุทิศ)  มี  8  ห้องเรียน     มีมุม  2  ข้าง  รวมเป็น  12  ห้องเรียนโดยพระปลัดแจ่ม ได้ขอร้องให้ นาย ทิ้ง –นางหมา  สำโรงทอง ช่วยสร้างอาคารเรียนดังกล่าว  สิ้นค่าก่อสร้างจำนวน 3,000 บาท (สามพันบาทถ้วน) ทำพิธีเปิด เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม    พ.ศ. 2480 โดยชื่อว่าอาคาร “เรือนสำโรงทองอุทิศ” มีนายอาภรณ์  รังกุพันธ์ ดำรงตำแหน่งครูใหญ่ เปิดทำการสอนตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-4 มีนักเรียน 230 คน สังกัดกองการประถมศึกษา  กรมสามัญศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ (ปัจจุบันนี้ อาคารสำโรงทองอุทิศ ได้ทำการรื้อถอนไปแล้วเมื่อ พ.ศ. 2519 เพื่อสร้างอาคารหลังใหม่ ตึก 3 ชั้น 12 ห้องเรียนแทน ปัจจุบันยังใช้อยู่ และเป็นอาคาร 1  คือ “อาคารสำโรงทอง”

อาคารเรียนหลังที่ 2

          สร้างในปี พ.ศ.2506 โดยได้รับงบประมาณจากกระทรวงศึกษาธิการ สร้างอาคาร แบบ 017 แบบ     กรมสามัญ 4 ห้องเรียน ใต้ถุนโปร่งค่าก่อสร้าง  200,000 บาท (สองแสนบาทถ้วน)  ต่อมาในปี 2507 ท่าน      เจ้าอาวาสวัดด่านสำโรงได้รับเงินบริจาค จากนายเสงี่ยม แว่วภู่ นางสาวทองสุข นางสาวทองใบ ศรีบุญเรือง     นางองุ่น  ทรัพย์ประเสริฐ  และนางทองคำ  ช้างชาวนา  รวมเป็นค่าต่อเติมชั้นล่าง  4  ห้องเรียน  เป็นเงิน 31,999 บาท  (สามหมื่นหนึ่งพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้าบาทถ้วน) โดยมีชื่อว่า “อาคารเรือนสมุทรเมธาวิทยาทาน” ปัจจุบันนี้อาคารเรือนสมุทรเมธาวิทยาทาน ได้รื้อถอนแล้วได้สร้างอาคารตึก 3 ชั้นแทนมีชื่อว่า “ อาคารเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา รัชกาลที่ 9 ” เป็นอาคารเรียนแบบ สปช 2/28   3 ชั้น 15 ห้องเรียน (นับเป็นหลังที่ 7)  โดยจัดสร้างใน ปี พ.ศ. 2530 โดยได้รับงบประมาณ จากสำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ จำนวน 3,145,000 บาท (สามล้านหนึ่งแสนสี่หมื่นห้าพันบาทถ้วน) ทำพิธีวางศิลาฤกษ์ เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม  พ.ศ.2530  โดย     พระธีรญาณมุนี (สนธิ.อเขมจารมหาเถร) ประธานฝ่ายสงฆ์ วัดปทุมคงคา และประธานฝ่ายฆราวาส   มล.ภัคศุภ  คำภู  ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการเป็นประธาน ทำพิธีเปิดใช้อาคารเรียน วันที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2531 โดยมีพระเทพมุนี รองเจ้าคณะภาค 1 วัดดอนยานนาวา กรุงเทพฯ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์  นายยิ่งยศ  มณฑลผลิน  รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ  เป็นประธานฝ่ายฆราวาส

อาคารเรียนที่ 3 (อาคารคล้ายทองคำวิทยาทาน)

          สร้างในปี พ.ศ. 2509 นายชื่น  นางวุ่น  คล้ายทองคำ และนายชั้น  นางแช่ม  คล้ายทองคำ  คหบดี 2 ครอบครัว ได้บริจาคเงิน 380,000 บาท (สามแสนแปดหมื่นบาทถ้วน) สร้างอาคารแบบ 030 ของกรมสามัญศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ เป็นอาคาร 2 ชั้น  8 ห้องเรียน  ต่อมานายพีระ  บุญจริง  นายอำเภอเมืองสมุทรปราการ  ได้ของบประมาณจากกรมการปกครอง  กระทรวงมหาดไทย  ต่อเติมชั้นล่าง และทาสี เป็นจำนวนเงิน 100,000 บาท (หนึ่งแสนบาทถ้วน) โดยทำพิธีเปิดอาคารเรียน เมื่อวันที่  16  มิถุนายน พ.ศ.2510  โดยนายชำนาญ        ยุวบูรณ์ อธิบดีกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย มาเป็นประธานในพิธี ต่อมาในปี พ.ศ.2549  อาคารเรียนทรุดโทรมลง น้ำท่วมขัง และมีปลวกแคะกิน ไม้โครงสร้างจนผุกร่อน นายสุวิทย์ สุพัฒนานนท์  ผู้อำนวยการโรงเรียน ได้ดำเนินการจัดหาช่างมารื้อถอน ปรับปรุง โดยดำเนินการรื้อผนังกั้นห้องที่เป็นไม้ออกและใช้การก่ออิฐฉาบปูนใหม่ทั้ง 4 ห้อง ในชั้นล่างยกพื้นโดยปูกระเบื้องพร้อมทาสีใหม่ ใช้งบประมาณจากรายได้สถานศึกษา     เงินค่าปรับในการก่อสร้างอาคารเรียนมาดำเนินการ   ประมาณ   150,000  บาท  (หนึ่งแสนห้าหมื่นบาทถ้วน)  ใช้เป็นสำนักงานบริการ และใน วันที่  21  พฤษภาคม พ.ศ.2553 ได้ทำการขายทอดตลาดอาคารเรียน และทำการรื้อถอนเพื่อจัดสร้างอาคารเรียนใหม่ (นับเป็นหลังที่ 9) โดยได้รับงบประมาณ เป็นงบแปรญัตติ จากสมาชิก สภาผู้แทนราษฎร  นายประเสริฐ  ชัยกิจเด่นนภาลัย  จำนวน 8,000,000 บาท (แปดล้านบาทถ้วน)  สร้างทดแทนเป็นอาคารเรียนแบบ สปช 2/28   3 ชั้น  12 ห้องเรียน ทำสัญญาจ้างและลงมือสร้าง เมื่อวันที่  29  มิถุนายน พ.ศ. 2553  และอยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้าง ใช้ระยะเวลา  230  วัน คาดว่าจะสามารถใช้งานได้ ใน       ปีการศึกษา 2554  โดยกำหนดวางศิลาฤกษ์ ในวันพฤหัสบดีที่  15  กรกฎาคม  พ.ศ.2553  โดยใช้ชื่ออาคารเรียนว่า “ อาคารเฉลิมพระเกียรติ 3  (60 ปี บรมราชาภิเษก) ”

อาคารเรียนที่ 4   (อาคารจูใจบุญ)

          สร้างในปี  พ.ศ.2511  พระสมุทรเมธาจารย์   เจ้าอาวาสโรงเรียนวัดด่านสำโรง  ได้แบ่งเงินมรดกของ นางหมา  จูใจบุญ  จำนวน  300,000 บาท (สามแสนบาทถ้วน)  สมทบทุนเงินงบประมาณจากกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย จำนวน 210,000 บาท (สองแสนหนึ่งหมื่นบาทถ้วน) รวมเป็นเงิน 510,000 บาท (ห้าแสนหนึ่งหมื่นบาทถ้วน)  สร้างอาคารแบบ 017 ของกรมสามัญศึกษา  กระทรวงศึกษาธิการ 2 ชั้น รวม 14 ห้องเรียน แต่ทว่าทำได้เพียง 9 ห้องเรียนเท่านั้น ยังขาดเงินอีก ท่านเจ้าอาวาสวัดด่านสำโรง ได้นำเงินจากการทอดกฐินของวัดด่านสำโรง สมทบอีก  60,000 บาท (หกหมื่นบาทถ้วน) และมีผู้บริจาคสมทบอีก 5 ราย เป็นเงิน 50,000 บาท (ห้าหมื่นบาทถ้วน) รวมเป็นเงินค่าก่อสร้างทั้งสิ้น  667,145 บาท  (หกแสนหกหมื่นเจ็ดพันหนึ่งร้อยสี่สิบห้าบาท) และได้ทำพิธีเปิดเมื่อวันที่  2  กรกฎาคม  พ.ศ.2513 โดยนายเจือ  อำพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ  เป็นประธานในพิธี ต่อมาในปี พ.ศ.2547  นายสุวิทย์  สุพัฒนานนท์  ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดด่านสำโรง          ได้ทำเรื่องขอรื้อถอนอาคารเรียน เนื่องจากสภาพชำรุดทรุดโทรม  ไม่สามารถใช้จัดการเรียนการสอนได้ และได้ดำเนินการจัดของบประมาณจัดสร้างทดแทน โดยได้รับงบประมาณจัดสร้าง 7,790,000  บาท (เจ็ดล้านเจ็ดแสนเก้าหมื่นบาทถ้วน)   เป็นแบบ อาคาร สปช 2/28   ปรับปรุง 4 ชั้น ใต้ถุนโล่ง 15 ห้องเรียน  ทำพิธีวางศิลาฤกษ์อาคารเรียน ในวันที่  27 มิถุนายน พ.ศ.2548  โดยประธานฝ่ายสงฆ์ สมเด็จพระพุทธาจารย์ (เกี่ยว) ผู้ปฏิบัติราชการแทนสมเด็จพระสังฆราช  วัดสระเกศ  เป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์  เวลา 15.19 น.    และท่าน      ส.ส.ประเสริฐ  เด่นนภาลัย  ดร.สุวิทย์  มูลคำ  ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสมุทรปราการ เขต 1    นายบุญลือ  เพชรบดี  นายกเทศมนตรีเทศบาล ตำบลสำโรงเหนือ  ร่วมเป็นประธานฝ่ายฆราวาสร่วมวางศิลาฤกษ์ และจัดพิธีเปิดอาคารเรียนฉลองอาคารในวันที่  12  มิถุนายน  พ.ศ.2551 โดย นายพงศกร อรรณนพพร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มาเป็นประธาน และใช้ชื่ออาคารว่า “ อาคารเฉลิมพระเกียรติ ฉลองสิริราชย์สมบัติครบ 60 ปี (จูใจบุญ) ”  (นับเป็นหลังที่ 8)

อาคารเรียนที่ 5  (อาคารห้องประชุม)

          สร้างในปี  พ.ศ.2514  นายมานิต  วัลยะเพ็ชร นายอำเภอเมืองสมุทรปราการ ได้ของบประมาณจากกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย จำนวน 1,000,000 บาท (หนึ่งล้านบาทถ้วน) สร้างอาคาร 3 ชั้น แบบ 503  ของกรมสามัญศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ จำนวน 8 ห้องเรียน และชั้นล่างใช้เป็นห้องประชุมเอนกประสงค์  และร่วมบริจาคทรัพย์เพิ่มเติม วัสดุ/อุปกรณ์ เพื่อใช้ในอาคารเรียน เป็นเงิน 221,212 บาท (สองแสนสองหมื่นหนึ่งพันสองร้อยสิบสองบาทถ้วน)  ทำพิธีเปิด เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2515  โดย ร.ต.ต. ชั้น สุวรรณทรรภ  ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ  เป็นประธานในพิธี ปัจจุบันยังใช้อาคารเรียนในการจัดกิจกรรม โดยจัดเป็นอาคารเรียนพิเศษ  เป็นห้องเรียน ICT ทั้งหมด และเปลี่ยนชื่อ เป็น “ อาคารเทคโนโลยีทางการศึกษา ”

อาคารเรียนชั่วคราว

ในปี พ.ศ.2518 – 2520 ได้ดำเนินการสร้างอาคารเรียนชั่วคราว 2 หลัง (หลังคามุงจาก)           โดยได้ก่อสร้างที่บริเวณสนามโรงเรียน  โดยได้รับเงินบริจาคจำนวน 24,166 บาท (สองหมื่นสี่พันหนึ่งร้อย หกสิบหกบาท)
          ถึงแม้ว่าทางโรงเรียนได้ดำเนินการแก้ปัญหาเรื่องอาคารเรียนไม่เพียงพอไปแล้วในระดับหนึ่ง  แต่ก็ปรากฏว่าจำนวนนักเรียนก็ได้เพิ่มขึ้นอีกมาก  ดังนั้นในปี พ.ศ.2519 – 2523 ทางโรงเรียนได้ดำเนินการสร้างอาคารเรียนชั่วคราวขึ้นอีก 2 หลัง โดยการบริจาคของประชาชน เป็นจำนวนเงิน 26,350 บาท (สองหมื่นหกพันสามร้อยห้าสิบบาท)  และในปี พ.ศ.2521 องค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ ได้อนุมัติเงินงบประมาณจำนวน 100,000 บาท (หนึ่งแสนบาท) โดยเปลี่ยนหลังคาเป็นวัสดุถาวร(มุงกระเบื้อง)   ในปี พ.ศ.2522 องค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ ได้อนุมัติเงินอีก 200,000 บาท (สองแสนบาท) เพื่อปรับปรุงพื้นอาคาร คือ เทคอนกรีตเสริมเหล็กทั้งสองอาคาร ในปี พ.ศ.2533 สภาตำบลสำโรงเหนือ ได้จัดสรรงบประมาณให้อีกจำนวน 95,000 บาท (เก้าหมื่นห้าพันบาท) เพื่อสร้างรั้วให้เป็นสัดส่วนจึงเสร็จสมบูรณ์

          พ.ศ.2519-2523 ได้สร้างอาคารเรียนชั่วคราวอีก 2 หลัง เนื่องจากอาคารเรียนไม่เพียงพอได้จัดสร้างอาคารเรียนชั่วคราวมุงจาก  2  หลัง  เป็นเงิน  26,350  บาท (สองหมื่นหกพันสามร้อยห้าสิบบาทถ้วน) โดยการบริจาคของประชาชน  ต่อมาปี  พ.ศ.2521  โดยงบประมาณขององค์การบริหารส่วนจังหวัด ได้อนุมัติเงินงบประมาณจำนวน  100,000  บาท  (หนึ่งแสนบาทถ้วน) ได้เปลี่ยนหลังคาเป็นกระเบื้อง ใน พ.ศ.2522 ได้งบประมาณจากองค์การบริหารส่วนจังหวัด   จำนวน 200,000 บาท (สองแสนบาทถ้วน)  จัดทำหลังคาและเทพื้นคอนกรีตใน ปี พ.ศ.2523  สภาตำบลสำโรงเหนือ ได้จัดสรรงบประมาณให้  95,000 บาท (เก้าหมื่นห้าพันบาทถ้วน)   จึงดำเนินการเทพื้นคอนกรีต สร้างรั้ว จนเสร็จสมบูรณ์ตามโครงการ ต่อมาในปี พ.ศ.2547 ทางโรงเรียนได้ดำเนินการรื้อถอนอาคารทั้ง 2 หลัง เนื่องจากชำรุดทรุดโทรมใช้จัดกิจกรรมไม่ได้ โดยขายทอดตลาดและใช้เป็นที่ก่อสร้างอาคารเรียนหลังที่ 5

อาคารเรียนที่ 6   (อาคารสิริรัฐประชานุสรณ์)

          ในปี พ.ศ. 2519  คณะกรรมการศึกษา/คณะกรรมการศิษย์เก่า/คณะครูโรงเรียนวัดด่านสำโรง ได้ช่วยกันหาเงินและรับบริจาคได้เป็นจำนวน  60,000  บาท (หกหมื่นบาทถ้วน)  ซื้อที่ดินจำนวน  82  ตารางวา   ทางด้าน ทิศตะวันออกของโรงเรียน  ต่อมาสภาตำบลสำโรงเหนือได้ถมที่ให้ เป็นเงิน 50,000 บาท (ห้าหมื่นบาทถ้วน)
          ในปี พ.ศ. 2523  นายวัฒนา  อัศวเหม  สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของจังหวัดสมุทรปราการ ได้ของบประมาณให้  1,400,000  บาท (หนึ่งล้านสี่แสนบาทถ้วน)  และได้รับเงินบริจาคสมทบอีก  600,000  บาท  (หกแสนบาทถ้วน)  สร้างอาคาร 3 ชั้น แบบพิเศษ  6  ห้องเรียน  ชั้นล่างมีส้วมชาย 24  ที่  ส้วมหญิง 16  ที่    วางศิลาฤกษ์  เมื่อวันที่  16  พฤศจิกายน  พ.ศ. 2523  โดย ดร.ธวัช  มกรพงศ์  ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ เป็นประธานในพิธีและได้รับความอุปการะจาก พระครูสิริเลขการ  อดีตเจ้าอาวาสวัดด่านสำโรง

          ก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อวันที่  29  กรกฎาคม พ.ศ.2524 ได้มีผู้บริจาควัสดุ/อุปกรณ์ เป็นเงิน 138,700 บาท (หนึ่งแสนสามหมื่นแปดพันเจ็ดร้อยบาทถ้วน) และได้กระทำพิธีเปิดอาคารเรียนเมื่อวันที่  7  มกราคม  พ.ศ. 2525 โดยสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์  วัดสามพระยา  เป็นประธานในพิธี   ปัจจุบันยังใช้เป็นห้องเรียน   แต่ได้มีการซ่อมแซมปรับปรุง ในปี พ.ศ. 2550-2551  โดยจัดปูกระเบื้องพื้นอาคารเรียนพร้อมทาสีอาคารใหม่ทั้งหมด

อาคารหลังที่ 7  (หอสมุดเจ้าพ่อทัพ)

          สร้างในปี พ.ศ.2539 โดยคณะกรรมการเจ้าพ่อทัพสำโรงโดยการนำของท่านประธานกรรมการโรงเรียน นายดำรง  ยงค์สงวนชัย  และคุณซิวปั๊ง  แซ่ตั้ง  ได้ร่วมกันปรึกษาหารือกับท่านผู้อำนวยการพัชนี  โปรียานนท์  ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดด่านสำโรง ในการจัดสร้างอาคารหอสมุดเจ้าพ่อทัพ เป็นตึก  4  ชั้น ขนาดกว้าง 8 เมตร ยาว 18 เมตร ใช้งบประมาณจากมูลนิธิศาลเจ้าพ่อทัพ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น  3,000,000  บาท  (สามล้านบาทถ้วน)  โดยได้ขอให้คุณวรเทพ  เพ็ญเพียร  อดีตหัวหน้ากองออกแบบของ สปช.กระทรวงศึกษาธิการช่วยเหลืออนุเคราะห์เรื่องเขียนแบบแปลนให้  นอกจากนี้ทางโรงเรียนยังได้รับการสนับสนุนจาก ท่านพระครูวิมลศุภการ เจ้าอาวาส  วัดด่านสำโรง คณะกรรมการเจ้าพ่อทัพสำโรง คณะกรรมการสมาคมชาวสำโรง คณะกรรมการโรงเรียน         คณะผู้ปกครองนักเรียน  พ่อค้า ประชาชน และคณะครูอาจารย์ของโรงเรียนได้ร่วมกันบริจาคเงินเพื่อจัดหาและจัดสร้างวัสดุครุภัณฑ์พร้อมอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้กับอาคารหอสมุดเป็นจำนวนเงินหลายแสนบาทจนสำเร็จเพียบพร้อม นับว่าเป็นอาคารหอสมุดที่สวยงามและทันสมัยที่สุดในจังหวัดสมุทรปราการ

          พิธีเปิดป้ายอาคารเพื่อเป็นสิริมงคลใน วันศุกร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ 2541 เวลา 09.19 น. โดย                นายวีระ  รอดเรือง ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการเป็นประธานในพิธี พร้อมพิธีรับมอบอาคารหอสมุดเจ้าพ่อทัพสำโรงให้แก่ทางราชการ เพื่อเป็นสมบัติของโรงเรียนวัดด่านสำโรงต่อไป

อาคารเอนกประสงค์  ประกอบด้วย

1. อาคารพยาบาล

          สร้างในปี พ.ศ.2533  จัดสร้างโดย นางสายหยุด  นางมะลิ  ฝักอ่อน  คหบดี  เป็นอาคารชั้นเดียว มีขนาดกว้าง  8  เมตร  x  8  เมตร  ใต้ถุนยกสูง ใช้งบประมาณ ก่อสร้าง ทั้งสิ้น  200,000  บาท (สองแสนบาทถ้วน)

2. อาคารสหกรณ์และแนะแนว

          สร้างในปี พ.ศ.2547  โดยนายสุวิทย์  สุพัฒนานนท์  ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดด่านสำโรงได้ประชุมและ ขอบริจาคทุนทรัพย์จากบริษัทสายไฟฟ้าเฟรดดอร์ส จำนวน  200,000  บาท (สองแสนบาทถ้วน) จัดสร้างมีขนาด  12  เมตร  x  8  เมตร  เป็นอาคารชั้นเดียวยกพื้น โดยใช้แบบแปลนเดียวกับอาคารเรือนพยาบาล

3. ลานกีฬาต้านยาเสพติด

          สร้างในปี พ.ศ.2552  ได้รับงบประมาณจากทางเทศบาลตำบลสำโรงเหนือ โดย นายลือกฤต เพชรบดี  นายกเทศมนตรีตำบลสำโรงเหนือ  จัดสร้างโครงหลังคาเมทัลชีส ขนาดกว้าง 18 เมตร x 36 เมตร โดยทางเทศบาลดำเนินการจัดสร้างให้

4. ห้องน้ำห้องส้วม

          จัดสร้างในสมัยนายสุวิทย์  สุพัฒนานนท์  ผู้อำนวยการโรงเรียน ในปี  พ.ศ. 2553 - 2554
4.1 จัดสร้างห้องน้ำห้องส้วม แบบ สพฐ. 4 (แบบส้วม 4 ที่)  จากงบแปรญัตติของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร  นายประเสริฐ  ชัยกิจเด่นนภาลัย  ด้วยงบประมาณ  352,000  บาท  (สามแสนห้าหมื่นสองพันบาทถ้วน)

4.2 จัดสร้างห้องน้ำห้องส้วม แบบ 605/45  ขนาด 10 ที่นั่ง  แบ่งเป็น 2 ส่วน ๆ ละ 5 ห้อง  ด้วยงบประมาณของ  สพฐ.  จำนวน  357,000  บาท (สามแสนห้าหมื่นเจ็ดพันบาทถ้วน)

5. สนามกีฬาโรงเรียน

          พ.ศ. 2553  ปรับปรุงสนาม ขนาดสนาม 18 เมตร x 36 เมตร โดยดำเนินการ ยกพื้นเทคอนกรีตเสริมเหล็กสูงขึ้นจากพื้นเดิม 20  เซนติเมตร และลงสีพื้นโดยใช้ด้วยงบประมาณ 200,000 บาท (สองแสนบาทถ้วน)

6. พระพุทธรูปปางลีลาพุทธมณฑล

          ในปี พ.ศ. 2553 นายสุวิทย์ สุพัฒนานนท์ ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดด่านสำโรง ได้จัดหล่อพระพุทธรูปปางลีลาพุทธมณฑล สูง 262 เซนติเมตร ด้วยงบบริจาคจากคหบดีและคณะครู  ด้วยงบดำเนินการ  109,999  บาท (หนึ่งแสนเก้าพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้าบาทถ้วน) ประดิษฐาน ณ บริเวณเสาธงโรงเรียน

7. เสาธงโรงเรียน

          รงเรียนได้รับการสนับสนุนการดำเนินการก่อสร้างเสาธงใหม่ แทนเสาธงเก่าที่มีอายุการ
ใช้งาน 40ปี จากคุณกิตติ  ยงค์สงวนชัย และครอบครัว  จัดสร้างให้ใหม่ในเดือนพฤศจิกายน  พ.ศ. 2553       เป็นเสาธงสแตนเลสสูง 18 เมตร แผ่นพื้นยกสูง 3 ระดับ ชั้นแรกเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาดกว้าง 5 เมตร x ยาว 9 เมตร เป็นรูปแปดเหลี่ยม ปูด้วยหินแกรนิตดำทั้งหมด  คิดเป็นมูลค่า  600,000 บาท(หกแสนบาทถ้วน)